สร้างวิมานในอากาศ
หมายถึง หวังจะมีจะเป็นอะไรอย่างเลิศลอย, คิดฝันลม ๆ แล้ง ๆ ถึง เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความมั่งมี
สร้างวิมานในอากาศ
หมายถึง คิดคาดหวัง จะมีจะเป็นอะไรอย่างเลิศลอย
สองจิตสองใจ
หมายถึง ลังเล,ตัดสินใจไม่ได้,เช่นจะไม่เชียงใหม่ดีหรือไม่ไปดียังสองจิตสองใจอยู่
สองฝักสองฝ่าย
หมายถึง ทำตัวเข้ากับ 2 ฝ่ายที่ไม่ถูกกัน โดยหวังประโยชน์เพื่อตน
สอดรู้สอดเห็น
หมายถึง เที่ยวเข้าไปรู้ในเรื่องของคนอื่น
สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ
หมายถึง สอนคนที่มีสันดานไม่ดีอยู่แล้วให้มีความเฉลียวฉลาดมากยิ่งขึ้นแล้วก็ก่อให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นมาภายหลัง
สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ
หมายถึง สอนสิ่งที่เขารู้ดีหรือถนัดอยู่แล้ว
สอนลูกให้เป็นโจร
หมายถึง ไม่ว่ากล่าวอบรมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี เมื่อลูกไปลักขโมยของใครมาได้กลับชมเชยว่าเก่ง ในที่สุดลูกก็กลายเป็นโจร.
สอนหนังสือสังฆราช
หมายถึง สอนสิ่งที่เขารู้ดีอยู่แล้ว
สอยดอกฟ้า
หมายถึง หมายปองที่จะได้หญิงผู้สูงศักดิ์กว่าตนมาเป็นคู่ครอง.
สาดน้ำรดกัน
หมายถึง กล่าวให้ร้ายซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดความเสียหายกันทั้งสองฝ่าย
สาดโคลน
หมายถึง ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นให้มัวหมอง
สามวันดีสี่วันไข้
หมายถึง เจ็บออด ๆ แอด ๆ อยู่เสมอ
สิบพ่อค้าไม่เท่าพระยาเลี้ยง
หมายถึง มีอาชีพทางค้าขายสู้รับราชการไม่ได้ เพราะเป็นพ่อค้าย่อมมีวันขาดทุน แต่ถ้ารับราชการก็มีเจ้านายชุบเลี้ยง มีชื่อเสียง และเงินทอง ไม่มีทางขาดทุน
สิ้นไร้ไม้ตอก
หมายถึง ยากไร้ ขัดสนถึงที่สุด ไม่มีทรัพย์สมบัติติดตัว
สีซอให้ควายฟัง
หมายถึง แนะนำ หรือสั่งสอนคนปัญญาทึบ มักไม่มีประโยชน์ เสียเวลาเปล่า
สุกเอาเผากิน
หมายถึง ทำลวก ๆ ทำพอเสร็จไปครั้ง ๆ หนึ่ง
สุกเอาเผากิน
หมายถึง อาการที่ทำลวก ๆ, อาการที่ทำพอเสร็จไปคราวหนึ่ง ๆ
สุดหล้าฟ้าเขียว
หมายถึง ไกลมากที่สุด เช่น เขาหนีไปอยู่สุดหล้าฟ้าเขียว ยากที่ใครจะตามไปถึง
สุ่มสี่สุ่มห้า
หมายถึง ซุ่มซ่าม, ไม่ระมัดระวังให้ดี, ไม่ดูให้ดี, เช่น เดินสุ่มสี่สุ่มห้าเลยตกบันได กินอาหารสุ่มสี่สุ่มห้าเลยท้องเสีย
สู้เหมือนหมาจนตรอก
หมายถึง ฮึดสู้เพราะไม่มีทางหนี เช่น พอจนมุมเข้า เขาก็สู้เหมือนหมาจนตรอก
หงายเก๋ง
หมายถึง แพ้ราบคาบ แบบหมดรูป สู้ไม่ได้
หนอนบ่อนไส้
หมายถึง ฝ่ายตรงข้ามที่เข้ามาทำทีเป็นพวกเพื่อบ่อนทำลาย, คนใกล้ชิด หรือพวกเดียวกันที่คิดทรยศไปเข้าพวก และคอยช่วยเหลือฝ่ายตรงข้าม
หนักแผ่นดิน
หมายถึง ไม่รู้คุณของแผ่นดินที่อาศัย, ทรยศต่อบ้านเมืองของตน, เสนียดสังคม
หนามยอกอก
หมายถึง คน หรืออุปสรรคที่ขจัดไม่ได้ กลายเป็นสิ่งที่ทิ่มแทงใจอยู่ตลอดเวลา
หนามยอกอก
หมายถึง คนหรือเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงอยู่ในอกตลอดเวลา
หนีร้อนมาพึ่งเย็น
หมายถึง หนีจากที่ที่มีความเดือดร้อนมาอาศัยอยู่ในที่ที่มีความสงบสุข
หนีเสือปะจระเข้
หมายถึง คนที่มีความทุกข์กำลังจะได้รับอันตรายไปขอความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นแต่กลับไปพบความทุกข์อันตรายอีกจากบุคคลที่ไปขอพึ่งพิง
หนีเสือปะจระเข้
หมายถึง หนีภัยอันตรายอย่างหนึ่งแล้วต้องพบภัยอันตรายอีกอย่างหนึ่ง
หนูตกถังข้าวสาร
หมายถึง ชายที่ฐานะไม่ค่อยดี ยากจน แต่งงานกับหญิงที่ร่ำรวยและมั่งคั่งกว่าตัว
หนูติดจั่น
หมายถึง จนปัญญา, หาทางออกไม่ได้
หน้าสิ่วหน้าขวาน
หมายถึง อยู่ในภาวะเฉียดอันตราย เพราะมีเหตุการณ์วิกฤติ
หน้าสิ่วหน้าขวาน
หมายถึง อยู่ในระยะอันตรายเพราะอีกฝ่ายหนึ่งกำลังโกรธหรือมีเหตุการณ์วิกฤตเป็นต้น
หน้าเนื้อใจเสือ
หมายถึง หน้าตาแสดงความเมตตา แต่ใจโหดเหี้ยม
หน้าเนื้อใจเสือ
หมายถึง หน้าตาดูใจดีมีเมตตาแต่ใจคอดุร้ายโหดเหี้ยม
หน้าใหญ่ใจโต
หมายถึง มีใจกว้างใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัวเพื่ออวดมั่งมี เช่น เขาชอบทำหน้าใหญ่ใจโตทั้ง ๆ ที่มีเงินน้อย
หน้าไหว้หลังหลอก
หมายถึง ต่อหน้าทำเป็นดีแต่ลับหลังกลับคิดร้าย
หมองูตายเพราะงู
หมายถึง ผู้ที่มีความรู้อาจตายหรือพลาดท่าเสียทีเพราะความรู้ของตนก็ได้
หมองูตายเพราะงู
หมายถึง ผู้ที่มีความรู้อาจพลาดท่าเสียที หรือถึงตายเพราะความรู้ของตนก็ได้
หมากัดไม่เห่า
หมายถึง คนที่ต่อสู้หรือตอบโต้โดยไม่เตือนล่วงหน้า
หมาขี้ไม่มีใครยกหาง
หมายถึง คนที่ชอบยกย่องตัวเอง
หมาขี้ไม่มีใครยกหาง
หมายถึง คำค่อนว่าคนที่ชอบคุยโม้โอ้อวด หรือยกตัวเองเหนือผู้อื่น
หมาจนตรอก
หมายถึง คนที่หันหน้าสู้สุดชีวิตเพราะไม่มีทางเลือก
หมาจนตรอก
หมายถึง คนที่ฮึดสู้อย่างสุดชีวิตเพราะไม่มีทางเลือก
หมาบ้าพาลกระแชง
หมายถึง คนที่อาละวาดพาลหาเรื่องทำให้วุ่นวายทั่วไปหมด
หมายน้ำบ่อหน้า
หมายถึง คาดหวังว่าจะได้ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
หมาลอบกัด
หมายถึง คนที่ไม่กล้าสู้ซึ่ง ๆ หน้า ดีแต่ลอบทำร้ายผู้อื่นลับหลัง
หมาสองราง
หมายถึง คนที่ทำตัวเข้าทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นศัตรูกัน โดยหวังประโยชน์เพื่อตน
หมาหยอกไก่
หมายถึง เรียกอาการที่ชายหยอกล้อหญิงในทำนองชู้สาวเป็นทีเล่นทีจริง
หมาหยอกไก่
หมายถึง ใช้เรียกอาการที่ผู้ชายหยอกล้อเกี้ยวผู้หญิงแบบทีเล่นทีจริง
หมาหวงก้าง
หมายถึง คนที่หวงของที่ตนเองไม่มีสิทธิ์, คนที่กันท่าคนอื่นในสิ่งที่ตนใช้ประโยชน์ไม่ได้
หมาหวงราง
หมายถึง คนที่หวงแหนสิ่งที่ตนเองกินหรือใช้ไม่ได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นกินหรือใช้
หมาหัวเน่า
หมายถึง ไม่มีไครเอาไม่มีไครต้อการ โดนรังเกียจ ไม่มีไครอยากคบด้วย
หมาหางด้วน
หมายถึง คนที่ทำอะไรผิดพลาดจนได้รับความอับอายแล้วชวนให้ผู้อื่นทำตามโดยยกย่องการกระทำนั้นว่าดี ควรเอาอย่าง
หมาเห็นข้าวเปลือก
หมายถึง คนที่อยากได้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตน แต่สุดความสามารถจะเอามาใช้ประโยชน์ได้
หมาเห่าใบตองแห้ง
หมายถึง คนที่ทำตัวเองเหมือนมีความเก่งกล้าสามารถ แต่จริงแล้วเป็นคนที่ขี้ขลาดไม่กล้าจริงอย่างที่พูด
หมาเห่าใบตองแห้ง
หมายถึง คนที่ดีแต่พูดอวดเก่งเสียงดัง แต่ไม่กล้าจริง
หมาเห่าไม่กัด
หมายถึง คนที่ดีแต่ส่งเสียงเอะอะอวดเก่ง แต่ไม่ยอมต่อสู้หรือตอบโต้
หมาในรางหญ้า
หมายถึง คนที่หวงแหนสิ่งที่ตนเองกินหรือใช้ไม่ได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นกินหรือใช้
หมูเขาจะหามเอาคานเข้าไปสอด
หมายถึง เข้าไปขัดขวางผลประโยชน์ กิจกรรม หรือการกระทำของผู้อืน ซึ่งเขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว
หมูในเล้า
หมายถึง ผู้ที่ตกอยู่ในอำนาจของตน
หมูไปไก่มา
หมายถึง ลักษณะของการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันด้วยการให้สิ่งของแลกเปลี่ยนหรือตอบแทนซึ่งกันและกันเป็นต้น
หมูไปไก่มา
หมายถึง แลกเปลี่ยนสิ่งของซึ่งกันและกัน, แสดงน้ำใจไมตรีตอบแทนกันและกัน
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
หมายถึง เมื่อทำความเดือดร้อนให้แก่คนใกล้ชิด ก็จะมีผลกระทบถึงตัวผู้ทำหรือพวกพ้อง
หวังน้ำบ่อหน้า
หมายถึง ของที่ได้แน่นอนแล้วไม่เอา กลับไปคาดหวังกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
หวานคอแร้ง
หมายถึง ทำได้ง่ายมาก
หวานนอกขมใน
หมายถึง พูดทำหรือแสดงให้เห็นว่าดีแต่ภายนอกแต่ในใจกลับตรงข้าม
หวานอมขมกลืน
หมายถึง ตกอยู่ในภาวะจำยอมไม่ว่าจะถูกกระทำดีหรือร้าย พอใจ หรือไม่พอใจก็ตาม
หวานเป็นลมขมเป็นยา
หมายถึง คำชม หรือคำพูดเยินยอฟังแล้วก็จบไปไม่ก่อประโยชน์แต่คำติมักเป็นประโยชน์ทำให้ได้คิด
หักด้ามพร้าด้วยเข่า
หมายถึง หักโหมเอาด้วยกำลัง ใช้อำนาจบังคับเขา
หักด้ามพร้าด้วยเข่า
หมายถึง หักโหมเอาด้วยกำลัง, ใช้กำลังอำนาจบังคับเอา
หัวกระไดไม่แห้ง
หมายถึง มีแขกมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ
หัวชนกำแพง
หมายถึง สู้ไม่ยอมถอย
หัวนอนปลายตีน
หมายถึง หลักแหล่ง, ที่ต่ำที่สูง
หัวล้านได้หวี
หมายถึง คนที่มีสิ่งที่ตัวเองใช้ประโยชน์ไม่ได้
หัวหลักหัวตอ
หมายถึง มองข้ามในบางเรื่องว่าไม่สำคัญ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
หัวเดียวกระเทียมลีบ
หมายถึง คนเดียวโดดเดี่ยวไม่มีพรรคพวก, ตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้อง
หัวเดียวกระเทียมลีบ
หมายถึง ตัวคนเดียว อยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนฝูง
หัวเรือใหญ่
หมายถึง ผู้ที่เป็นหัวหน้าในการสั่งการทำกิจการต่าง ๆ
หัวแก้วหัวแหวน
หมายถึง เป็นที่รักใคร่เอ็นดูมาก
หัวแก้วหัวแหวน
หมายถึง รักใคร่เอ็นดูมาก
หาเหาใส่หัว
หมายถึง รนหาเรื่องเดือดร้อน รำคาญใส่ตน
หาเหาใส่หัว
หมายถึง รนหาเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตนเอง
หุงข้าวประชดหมา
หมายถึง ทำประชดหรือแดกดัน ซึ่งรังแต่จะเสียประโยชน์
หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว
หมายถึง การทำอะไรเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลเสียจะตกแก่ตน ส่วนผลดีจะไปได้แก่คนที่เราประชดให้
หูเบา
หมายถึง เชื่อคนง่าย
ห่วงคล้องคอ
หมายถึง ความรับผิดชอบที่ผูกพันอยู่, ภาระที่ผูกพันอยู่
อกเขาอกเรา
หมายถึง การที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หากคิดที่จะทำอะไรสักอย่างกับผู้อื่น ให้นึกถึงความรู้สึกของเขา ถ้าเราเป็นเขาจะรู้สึกอย่างไร
อมพระมาพูด
หมายถึง ใช้ในการพูดโดยอ้างพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประกอบเป็นพยานมักใช้ในความปฏิเสธเช่นต่อให้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ
อยากเป็นขี้ข้าให้เป็นนายประกัน
หมายถึง หลีกเลี่ยงกระทำสัญญาหรือค้ำประกันให้คนอื่น เพราะอาจจะได้รับความเดือดร้อน
อยากเป็นหนี้ให้เป็นนายหน้า
หมายถึง หลีกเลี่ยงกระทำสัญญาหรือค้ำประกันให้คนอื่น เพราะอาจจะได้รับความเดือดร้อน
อย่าชี้โพรงให้กระรอก
หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
อย่าทำตัวเป็นกิ้งก่าได้ทอง
หมายถึง อย่าเย่อหยิ่งจองหองเพราะเพียงได้ดีหรือมีทรัพย์ขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
อย่าทำเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง
หมายถึง อย่าทำพูดอวดเก่ง หรือเก่งแต่ปาก
อย่าละเลงขนมเบื้องด้วยปาก
หมายถึง อย่าเป็นคนดีแต่พูด คือพูดได้ แต่ทำไม่ได้
อย่าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ
หมายถึง อย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
อย่าเห็นขี้ดีกว่าไส้
หมายถึง อย่าเห็นผู้อื่นดีกว่าญาติพี่น้องลูกหลานของตน
อย่าเอาจมูกคนอื่นหายใจ
หมายถึง ต้องรู้จักช่วยตัวเอง อย่าคิดแต่จะพึงพาอาศัยคนอื่นเสมอไป ถ้าเราทำอะไรได้เองก็สะดวก แต่ถ้าต้องคอยอาศัยคนอื่นเขาร่ำไป ย่อมไม่ได้รับความสะดวก
อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง
หมายถึง อย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่เสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
อัฐยายซื้อขนมยาย
หมายถึง เอาทรัพย์จากผู้ปกครองหญิงที่จะขอแต่งงานด้วย มอบให้เป็นสินสอดทองหมั้นแก่ผู้ปกครองหญิงนั้นโดยสมรู้กัน, โดยปริยายหมายถึงการกระทำอย่างอื่นในทำนองเดียวกันนี้ เช่น เอาทรัพย์จากผู้ใดผู้หนึ่งซื้อหรือแลกสิ่งของอื่นของผู้นั้น