ผู้มีความรู้และประสบการณ์น้อย แต่สำคัญตนว่ามีความรู้มาก
ประเภทสำนวน
"กบในกะลาครอบ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะการเปรียบเปรยให้เห็นภาพเปรียบเทียบพฤติกรรมของมนุษย์ (คนที่มีโลกทัศน์แคบ) กับภาพของกบในกะลา ต้องตีความความหมายแฝงเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบคนที่มีความรู้น้อย มีประสบการณ์จำกัด แต่คิดว่าตนเองเก่งหรือรู้ดีไปหมด เหมือนกบที่อยู่ในกะลา ซึ่งเป็นที่แคบๆ แต่คิดว่านั่นคือโลกทั้งใบ ไม่รู้ว่าโลกภายนอกกว้างใหญ่กว่านั้นมากมายเพียงใด จึงหลงคิดว่าสิ่งที่ตนเห็นและรู้นั้นคือทั้งหมดของความรู้และโลก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กบในกะลาครอบ" ในประโยค
- เขาไม่เคยออกไปไหนเลยนอกจากในหมู่บ้าน แล้วยังกล้าพูดว่ารู้จักโลกดี นี่แหละกบในกะลาครอบ
- อย่าเป็นกบในกะลาครอบเลย ออกไปเปิดหูเปิดตาดูโลกกว้างบ้าง จะได้รู้ว่าความรู้ของเรายังน้อยนิดเหลือเกิน
- นักเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับความรู้ใหม่ๆ คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ก็เหมือนกบในกะลาครอบที่ไม่มีวันพัฒนา
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี