คำค่อนว่าคนที่ชอบคุยโม้โอ้อวด หรือยกตัวเองเหนือผู้อื่น
ประเภทสำนวน
"หมาขี้ไม่มีใครยกหาง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม และเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนโดยอาศัยภาพของสุนัขเป็นสื่อ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการสังเกตธรรมชาติของสุนัข ที่ปกติเวลาขับถ่ายจะยกหางขึ้นเอง แต่หากเป็นสุนัขที่ไม่มีใครสนใจหรือไร้ค่า แม้แต่หางของมันเองก็ไม่มีใครมายกให้ เปรียบเปรยถึงคนที่ไม่มีความสำคัญ ด้อยค่า หรือไม่มีประโยชน์ จึงไม่มีใครสนใจหรือยกย่อง ต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่มีคนคอยช่วยเหลือหรือสนับสนุน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมาขี้ไม่มีใครยกหาง" ในประโยค
- คนอย่างฉันน่ะหรือจะได้เลื่อนตำแหน่ง ก็แค่พนักงานขายธรรมดา หมาขี้ไม่มีใครยกหาง หรอก
- ถึงแม้จะเรียกตัวเองว่า หมาขี้ไม่มีใครยกหาง แต่เขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยความสามารถของตัวเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"หมาขี้ไม่มีใครยกหาง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรง แต่เป็นการเปรียบเปรยเพื่อสื่อความหมายบางอย่าง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากพฤติกรรมของสุนัขที่เวลาขับถ่ายจะต้องยกหางขึ้น แต่ถ้าเป็นสุนัขที่ไม่มีใครสนใจหรือไม่มีเจ้าของ ก็จะไม่มีใครมาช่วยยกหางให้ สื่อความหมายว่า คนที่ไม่มีชื่อเสียง ฐานะ หรืออำนาจ ย่อมไม่มีใครมาสนใจหรือยกย่องเชิดชู ต้องพึ่งพาตนเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมาขี้ไม่มีใครยกหาง" ในประโยค
- นักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ไม่มีเส้นสายในพรรค เลยเป็นเหมือนหมาขี้ไม่มีใครยกหาง ทำอะไรก็ไม่มีคนช่วย
- เขาเป็นคนมีความสามารถแต่ไม่มีคนรู้จัก เหมือนหมาขี้ไม่มีใครยกหาง ต้องพยายามสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยตัวเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี