การทำอะไรเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลเสียจะตกแก่ตน ส่วนผลดีจะไปได้แก่คนที่เราประชดให้
ประเภทสำนวน
"หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยพฤติกรรมคนที่ทำสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์เพียงเพื่อแสดงความไม่พอใจ ต้องตีความความหมายแฝงเพิ่มเติมว่ากำลังพูดถึงการกระทำที่ไร้ประโยชน์ต่อตนเอง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบการกระทำที่เกิดจากความไม่พอใจ แต่สุดท้ายกลับทำให้ตนเองเดือดร้อนหรือเสียประโยชน์ เหมือนการหุงข้าวเพื่อให้หมากิน หรือปิ้งปลาให้แมวกิน ซึ่งเป็นการกระทำที่คนทำไม่ได้ประโยชน์ แต่กลับเป็นผลดีกับฝ่ายที่ตนเองไม่พอใจ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว" ในประโยค
- น้องเกิดไม่พอใจที่แม่ไม่ซื้อของเล่นให้ เลยลาออกจากงานดีๆ เป็นการหุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว เพราะสุดท้ายตัวเองก็ไม่มีรายได้
- การที่คุณไม่เรียนเพราะโกรธอาจารย์ ก็เหมือนหุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมวนะ สุดท้ายใครเดือดร้อนก็ตัวคุณเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี