การทำความดีหรือกระทำการใดๆเพียงเพื่อให้ผู้อื่นเห็นว่างานเสร็จแล้ว เรียบร้อย สวยงาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนั้นยังไม่สำเร็จเรียบร้อย
เปรียบเปรยถึง มีก้างปลาติดอยู่ในคอซึ่งกลืนก็ไม่เข้าท้อง คายก็ไม่สามารถทำได้ง่าย
ประเภทสำนวน
"ผักชีโรยหน้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยพฤติกรรมมนุษย์ในลักษณะการแสดงออกอย่างสวยงามเพียงภายนอก แต่ไม่จริงใจหรือไม่ได้ทำอย่างจริงจัง ต้องตีความเพิ่มเติมจากคำที่มีการเปรียบเทียบ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากวิธีการทำอาหารไทยที่นิยมโรยผักชีบนหน้าอาหารเพื่อให้ดูสวยงามน่ารับประทาน ซึ่งเป็นเพียงการตกแต่งขั้นสุดท้ายที่ไม่ได้มีส่วนสำคัญต่อรสชาติหรือคุณค่าของอาหารจริงๆ จึงนำมาเปรียบกับการกระทำที่เป็นเพียงการแสดงออกภายนอกเพื่อให้ดูดี แต่ไม่ได้มีเจตนาจริงจังหรือทำอย่างตั้งใจ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ผักชีโรยหน้า" ในประโยค
- โครงการพัฒนาสวนสาธารณะนี้เป็นแค่ผักชีโรยหน้าเท่านั้น เพราะทำแค่ช่วงใกล้เลือกตั้ง พอเลือกตั้งผ่านไปก็ไม่มีคนดูแลต่อ
- การที่บริษัทจัดกิจกรรม CSR ช่วยเหลือชุมชนปีละครั้งแล้วถ่ายรูปลงสื่อ แต่กระบวนการผลิตทำลายสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งปี ก็เป็นแค่ผักชีโรยหน้าเท่านั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ผักชีโรยหน้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมคนที่แสดงท่าทีดีเพียงผิวเผิน ไม่ได้จริงใจ เป็นการเปรียบเทียบที่ต้องตีความจึงจะเข้าใจความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงหรือสำนวนที่มีความหมายเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากการปรุงอาหารที่มีการโรยผักชีบนอาหารเพื่อให้ดูสวยงามน่ารับประทาน แต่เป็นเพียงการตกแต่งภายนอกเท่านั้น ไม่ได้ทำให้รสชาติหรือคุณค่าของอาหารเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คำพังเพยนี้จึงใช้เปรียบเทียบกับคนที่แสดงความดีหรือใส่ใจเพียงเปลือกนอก เพื่อให้ผู้อื่นมองว่าดี แต่แท้จริงแล้วไม่ได้มีความตั้งใจจริง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ผักชีโรยหน้า" ในประโยค
- หน่วยงานรัฐเพิ่งจะมาทำความสะอาดถนนตอนที่มีการตรวจเยี่ยมจากผู้ใหญ่ แบบนี้เรียกว่าผักชีโรยหน้าชัดๆ
- โครงการช่วยเหลือประชาชนที่เพิ่งเปิดตัวก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วัน เป็นเพียงผักชีโรยหน้าเพื่อหาเสียงเท่านั้น
- บริษัทนี้จัดกิจกรรม CSR แค่ปีละครั้งเพื่อถ่ายรูปลงสื่อ แต่ไม่เคยใส่ใจสิ่งแวดล้อมจริงๆ เป็นแค่ผักชีโรยหน้าเท่านั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ผักชีโรยหน้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมหรือลักษณะบางอย่าง มีความหมายเชิงเปรียบเทียบที่ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำหรือวลีเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากวิธีการประกอบอาหารไทยที่มักโรยผักชีลงบนหน้าอาหารเป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้อาหารดูสวยงามน่ารับประทาน เปรียบเทียบกับการทำสิ่งใดที่เป็นเพียงการแต่งเติมภายนอกเพื่อให้ดูดี แต่ไม่ได้ทำอย่างจริงจังหรือตั้งใจจริง เป็นการทำแบบขอไปที เพียงเพื่อให้คนอื่นเห็นว่าได้ทำแล้วเท่านั้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ผักชีโรยหน้า" ในประโยค
- บริษัทนี้จัดกิจกรรม CSR แค่ปีละครั้ง ดูเหมือนเป็นการผักชีโรยหน้ามากกว่าจะทำเพื่อสังคมจริงๆ
- การที่นายกเทศมนตรีมาปรากฏตัวในงานชุมชนเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้งนั้น เป็นเพียงการผักชีโรยหน้าเพื่อหาเสียงเท่านั้น
- พ่อแม่ที่ไม่เคยสนใจลูกแต่ซื้อของราคาแพงให้เฉพาะช่วงวันเกิด ก็เหมือนกับการผักชีโรยหน้าไม่ต่างกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี