ประเภทสำนวน
"ผักต้มขนมยำ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม โดยเปรียบเทียบการกระทำหรือพฤติกรรมของคนที่ชอบทำตัวคล้อยตามผู้อื่นไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษเหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มาจากการเปรียบเทียบกับอาหารไทยสองชนิด คือ ผักต้ม และขนมยำ ซึ่งเป็นอาหารที่ไม่มีรสชาติเป็นของตัวเอง ต้องจิ้มน้ำพริกหรือน้ำปลาหวานจึงจะอร่อย เปรียบเหมือนคนที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ชอบทำตามคนอื่น หรือเห็นด้วยกับทุกคนไปหมด ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ผักต้มขนมยำ" ในประโยค
- ฉันไม่อยากทำงานกับคนแบบผักต้มขนมยำแบบนี้ เขาไม่เคยมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง เห็นด้วยกับทุกคนไปหมด
- พวกผักต้มขนมยำแบบเธอนี่แหละที่ทำให้องค์กรไม่พัฒนา ไม่กล้าเสนอความคิดเห็นที่แตกต่าง คอยแต่จะเออออไปกับทุกอย่าง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี