รู้ทันกัน, รู้ทันสิ่งที่จะทำ
ตัวอย่าง: แค่อ้าปาก ก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ไม่ต้องพูดเยอะให้มากความ
ประเภทสำนวน
"อ้าปากเห็นลิ้นไก่" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษซึ่งไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องตีความจากความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอน (สุภาษิต) และไม่ใช่การเปรียบเทียบ (คำพังเพย) แต่เป็นการอธิบายถึงลักษณะนิสัยหรือพฤติกรรมอย่างเฉพาะเจาะจง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึง คนที่พูดมากเหลือเกิน พูดไม่รู้จักหยุด พูดเรื่องไม่เป็นสาระ พูดจนคนฟังเบื่อ ลิ้นไก่ในที่นี้คือเนื้อเยื่อที่ห้อยอยู่ในคอด้านหลังของเพดานปาก คนพูดมากมักจะอ้าปากบ่อย ทำให้เห็นลิ้นไก่อยู่บ่อยๆ จึงเกิดเป็นสำนวนนี้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "อ้าปากเห็นลิ้นไก่" ในประโยค
- พี่คนนั้นเป็นคนนิสัยดี แต่พอเขาพูดขึ้นมา อ้าปากเห็นลิ้นไก่ เลย พูดไม่หยุดเลยจนฉันนั่งหลับไปแล้ว
- คุณแม่ดุลูกชายที่พูดมากว่า 'อ้าปากเห็นลิ้นไก่' เมื่อไหร่จะรู้จักสงวนคำพูดเสียบ้าง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี