ประเภทสำนวน
"รู้เช่นเห็นชาติ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นความหมายเฉพาะในภาษาไทย แสดงลักษณะอาการเมื่อทราบความจริงในภายหลัง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่หรือชาติก่อน โดยคำว่า 'ชาติ' หมายถึงการเกิด หรือกำเนิด สำนวนนี้แสดงถึงความรู้สึกของคนที่เมื่อรู้ความจริงในภายหลัง จึงเข้าใจถึงที่มาหรือสาเหตุของเรื่องราวนั้นๆ มักใช้ในความหมายที่ว่า หากได้รู้ความจริงตั้งแต่แรก ก็คงไม่ทำสิ่งนั้นลงไป
ตัวอย่างการใช้สำนวน "รู้เช่นเห็นชาติ" ในประโยค
- ถ้าฉันรู้เช่นเห็นชาติว่าเขาเป็นคนไม่รักษาคำพูด ฉันคงไม่ไปร่วมงานกับเขาตั้งแต่แรก
- ถ้ารู้เช่นเห็นชาติว่าสินค้าตัวนี้มีปัญหา ผมก็คงไม่สั่งซื้อมาเป็นจำนวนมากขนาดนี้
- เมื่อเธอทราบว่าผู้ชายคนนั้นมีครอบครัวแล้ว ก็ได้แต่บอกตัวเองว่ารู้เช่นเห็นชาติ คงไม่คบกับเขาตั้งแต่ต้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี