ประเภทสำนวน
"ม้าดีต้องมีพยศ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเปรียบเทียบ มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงหรือสำนวนที่ต้องตีความความหมายพิเศษ แต่เป็นการเปรียบเปรยธรรมชาติของม้าที่ดีเพื่อสื่อถึงลักษณะของคน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบจากลักษณะของม้าที่มีคุณภาพดี มักจะมีนิสัยพยศ คือ ดื้อรั้น ไม่ยอมอยู่นิ่ง หรือคึกคะนอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วม้าที่มีสายพันธุ์ดีมักมีพละกำลังมาก จิตใจแข็ง และมีความกระตือรือร้นสูง สำนวนนี้จึงนำมาเปรียบกับคนที่มีความสามารถสูง มักจะมีความมั่นใจในตัวเอง อาจดูดื้อรั้น มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ยอมคน หรือท้าทายกฎเกณฑ์ได้บ้าง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ม้าดีต้องมีพยศ" ในประโยค
- ถึงเด็กคนนี้จะดื้อและโต้เถียงครูบ้าง แต่ความจริงเขาฉลาดมาก เรียนได้คะแนนดีเสมอ ก็อย่างที่ว่า ม้าดีต้องมีพยศ
- อย่าไปตำหนิลูกน้องคนนั้นมากนัก แม้เขาจะไม่ทำตามคำสั่งทุกอย่าง แต่ผลงานเขาดีที่สุดในแผนก ม้าดีต้องมีพยศ บ้างล่ะนะ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี