ไม่ลงรอยกัน, ขัดแย้งกันเป็นประจำ
ประเภทสำนวน
"ไม้เบื่อไม้เมา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม แสดงลักษณะความไม่ลงรอยกัน ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และมีความหมายลึกซึ้งที่แฝงอยู่ในคำเปรียบเทียบ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากไม้ยืนต้นสองชนิดที่มีลักษณะเป็นพิษคือไม้เบื่อและไม้เมา ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีพิษที่สามารถใช้ในการล่าสัตว์หรือทำร้ายผู้อื่นได้ เมื่อนำทั้งสองสิ่งนี้มาอยู่ร่วมกัน จึงเปรียบถึงสภาพที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีอันตรายต่อกันและกัน หรือมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไม้เบื่อไม้เมา" ในประโยค
- ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ไม่เคยลงรอยกันสักที
- พี่น้องสองคนนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เด็ก เจอหน้ากันทีไรก็ทะเลาะกันทุกที
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี