การคัดค้านผู้มีอำนาจกว่า ท้ายสุดมักจะพ่ายแพ้
ประเภทสำนวน
"ไม้ซีกงัดไม้ซุง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม เปรียบเปรยถึงพฤติกรรมหรือสถานการณ์ของคนที่ด้อยกว่าพยายามต่อกรกับผู้ที่เหนือกว่า ไม่ใช่คำสอนโดยตรง และไม่ใช่วลีที่มีความหมายเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบจากสภาพความเป็นจริงที่ 'ไม้ซีก' ซึ่งเป็นไม้ชิ้นเล็กๆ ที่ถูกผ่าหรือแยกออกมาจากท่อนไม้ใหญ่ ไม่มีทางสามารถงัดหรือยกไม้ซุงซึ่งเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่ได้ ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่มีกำลังน้อยกว่า มีอำนาจน้อยกว่า หรือด้อยกว่าในด้านใดก็ตาม พยายามต่อสู้หรือต่อกรกับผู้ที่มีกำลังหรืออำนาจมากกว่า ซึ่งย่อมไม่มีทางชนะได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไม้ซีกงัดไม้ซุง" ในประโยค
- คนอย่างเรา จะไปฟ้องร้องเศรษฐีใหญ่คนนั้น มันก็เหมือนไม้ซีกงัดไม้ซุงเท่านั้นเอง เราไม่มีทางชนะหรอก
- นักธุรกิจรายย่อยที่พยายามแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดเดียวกัน ก็เหมือนกับไม้ซีกงัดไม้ซุง ยากที่จะเอาชนะได้หากไม่มีกลยุทธ์ที่แตกต่าง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี