ไม่เกินความสามารถที่จะทําได้
ประเภทสำนวน
"ไม่เหลือบ่ากว่าแรง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยถึงลักษณะงานหรือภาระที่พอดีกับความสามารถของผู้ทำ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะแบบสำนวนไทย แต่ต้องตีความและเป็นการเปรียบเทียบ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มาจากการเปรียบเทียบกับการแบกของหนักที่วางไว้บนบ่า (เหลือบ่า) กับกำลังแรงของคน (แรง) โดยหมายถึงการรับภาระหน้าที่หรืองานที่เหมาะสมกับความสามารถของตน ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอดีกับกำลังความสามารถ ทำให้สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จโดยไม่เหนื่อยหรือลำบากจนเกินไป
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไม่เหลือบ่ากว่าแรง" ในประโยค
- งานที่ได้รับมอบหมายครั้งนี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง พอจะทำให้เสร็จได้ทันเวลา
- แม้จะเป็นงานที่ยาก แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงสำหรับทีมงานที่มีประสบการณ์อย่างพวกเรา
- ครูมอบหมายการบ้านให้นักเรียนแต่ละคนตามความสามารถ ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ทำให้ทุกคนทำงานได้สำเร็จ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี