ได้อะไรที่เป็นประโยชน์ ได้อะไรที่ดี ๆ มีสาระ ครบถ้วน
ใช้บอกในหลายเหตุการณ์ เช่น การฟัง การพูด การทำงาน ค้าขาย กำไร เป็นต้น
ประเภทสำนวน
"ได้น้ำได้เนื้อ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถเข้าใจได้จากการแปลความหมายตรงตัว ต้องตีความพิเศษ ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรง (สุภาษิต) หรือเป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรม (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เกิดจากการนำเอากระบวนการประกอบอาหารมาเปรียบเทียบ เมื่อเราประกอบอาหารที่มีทั้งเนื้อสัตว์และน้ำซุป ถ้าทำให้ได้รสชาติดีทั้งน้ำซุปและเนื้อสัตว์ก็จะเรียกว่า 'ได้น้ำได้เนื้อ' หมายถึง ได้ประโยชน์ครบถ้วน สมบูรณ์
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ได้น้ำได้เนื้อ" ในประโยค
- การลงทุนในหุ้นตัวนี้ ได้น้ำได้เนื้อ ทั้งเงินปันผลดีและมูลค่าหุ้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- โครงการพัฒนาชุมชนครั้งนี้ ได้น้ำได้เนื้อ ทั้งสร้างงานให้คนในพื้นที่และพัฒนาสาธารณูปโภคไปพร้อมกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี