หมายถึง ผู้ที่อยู่ในฐานะตัวสำรอง ซึ่งจะเรียกมาใช้เมื่อไรก็ได้
ประเภทสำนวน
"ไก่รองบ่อน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่แฝงข้อคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมของคน ต้องตีความเพิ่มเติม มีลักษณะของการเปรียบเทียบพฤติกรรมไก่ชนในบ่อนกับคนที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มีที่มาจากวัฒนธรรมการพนันไก่ชนในบ่อน โดยเปรียบกับไก่ที่ออกมาชนแล้วแพ้ แต่เจ้าของไก่จะนำกลับมาชนอีกในบ่อนเดิม เพื่อทวงคืนความแพ้พ่าย หรือหวังจะเอาชนะให้ได้ ซึ่งมักจะพ่ายแพ้อีกจนเสียหมดตัว สำนวนนี้จึงใช้เปรียบกับคนที่เคยเสียที หรือเสียเปรียบในเรื่องใดแล้วยังอยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ อีก จนทำให้ตัวเองเสียหาย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไก่รองบ่อน" ในประโยค
- ถึงจะเคยหลงเสียเงินให้แชร์ลูกโซ่นั่นไปแล้ว แต่ก็ยังอยากเข้าไปลงทุนอีก เป็นไก่รองบ่อนแท้ๆ
- เธอเลิกกับแฟนเก่าไปแล้ว ถ้ายังกลับไปคบอีก ก็เป็นไก่รองบ่อนเท่านั้นแหละ จะเจ็บตัวอีกรอบแน่ๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี