เป็นหม้ายเพราะสามีปล่อยปะละเลย ไม่ได้หม้ายเพราะสามีเสียชีวิตแต่อย่างใด, ผู้หญิงเจ้าชู้นั่นเอง
ประเภทสำนวน
"แม่หม้ายผัวเผลอ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่ไม่ได้สอนโดยตรง แต่ใช้เปรียบเทียบพฤติกรรมหรือลักษณะบางอย่าง ซึ่งผู้ฟังต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
เป็นคำพังเพยที่ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่แสดงความเศร้าโศกเสียใจในที่สาธารณะ แต่พอลับตาคนหรือไม่มีใครเห็นก็กลับมีความสุขสนุกสนาน หรือทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการไว้ทุกข์ ซึ่งเปรียบเหมือนแม่หม้ายที่แสดงความเศร้าเสียใจต่อหน้าคนทั่วไป แต่เมื่ออยู่ตามลำพังหรือไม่มีใครเห็นก็กลับมีความสุข สนุกสนาน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "แม่หม้ายผัวเผลอ" ในประโยค
- เขาแสดงท่าทีเศร้าโศกในงานศพของสามี แต่พอกลับบ้านกลับสนุกสนาน ทำตัวเหมือนแม่หม้ายผัวเผลอ
- สภาพห้องช่างดูรกรุงรังแม้เพิ่งจะทำความสะอาดไปเมื่อวาน แบบนี้เรียกว่าแม่หม้ายผัวเผลอ ต่อหน้าทำเป็นเรียบร้อย พอลับหลังกลับไม่ดูแลบ้าน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี