หญิงที่ไปติดต่อระหว่างชายหญิงแต่ไม่สำเร็จในที่สุดก็ตกเป็นภรรยาของชายนั้นแทน
ประเภทสำนวน
"แม่สื่อแม่ชักไม่ได้เจ้าตัวเอาวัวพันหลัก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีการเปรียบเปรย ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรง แต่สื่อความหมายเชิงเปรียบเทียบถึงการเป็นคนกลางที่ช่วยเหลือไม่ประสบความสำเร็จเพราะตัวผู้เกี่ยวข้องแท้จริงกลับไปทำเรื่องเสียหาย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากวิถีชีวิตชนบทที่มีการใช้คนกลางหรือแม่สื่อในการเจรจาสู่ขอ คำว่า 'แม่สื่อแม่ชัก' หมายถึงคนกลางที่ทำหน้าที่ชักนำหรือเจรจาต่อรอง ส่วน 'วัวพันหลัก' หมายถึงวัวที่พันเชือกรอบหลักจนยุ่งเหยิง เปรียบเหมือนสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงจนแก้ไขยาก สำนวนนี้จึงหมายถึงการที่คนกลางพยายามทำงานให้แล้วเสร็จด้วยดี แต่กลับไม่สำเร็จเพราะตัวผู้เกี่ยวข้องหลักกลับไปสร้างปัญหา
ตัวอย่างการใช้สำนวน "แม่สื่อแม่ชักไม่ได้เจ้าตัวเอาวัวพันหลัก" ในประโยค
- พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายพยายามเจรจาให้ลูกคืนดีกัน แต่สุดท้ายก็เป็นแม่สื่อแม่ชักไม่ได้เจ้าตัวเอาวัวพันหลัก ลูกทั้งสองกลับทะเลาะกันใหญ่โตกว่าเดิม
- ผมอุตส่าห์ช่วยพูดกับเจ้านายให้เธอได้เลื่อนตำแหน่ง แต่เธอดันไปขัดคำสั่งเจ้านายซะก่อน ก็เลยกลายเป็นแม่สื่อแม่ชักไม่ได้เจ้าตัวเอาวัวพันหลัก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี