คนที่ต้องรับผิดในสิ่งที่ตนไม่ได้กระทำ
ประเภทสำนวน
"แพะรับบาป" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม มีลักษณะการเปรียบเทียบพฤติกรรมและไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากพิธีกรรมในพระคัมภีร์ของศาสนายูดาย (ยิว) ที่มีประเพณีการนำความผิดบาปของประชาชนไปผูกติดกับแพะ แล้วไล่แพะตัวนั้นเข้าไปในป่า เป็นสัญลักษณ์ของการกำจัดบาปออกไปจากชุมชน ปัจจุบันใช้เปรียบเปรยถึงผู้ที่ต้องรับผิดชอบหรือถูกกล่าวโทษแทนผู้อื่นที่เป็นผู้กระทำผิดตัวจริง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "แพะรับบาป" ในประโยค
- เขาเป็นเพียงแพะรับบาปในคดีนี้ คนที่ทุจริตตัวจริงหนีไปแล้ว
- พนักงานระดับล่างมักถูกทำให้เป็นแพะรับบาปเมื่อบริษัทมีปัญหา แม้จะไม่ใช่ความผิดของพวกเขาก็ตาม
- ผู้จัดการทีมฟุตบอลกลายเป็นแพะรับบาปทุกครั้งเมื่อทีมแพ้ แม้สาเหตุจะมาจากนักเตะก็ตาม
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี