ประเภทสำนวน
"เอาจมูกผู้อื่นมาหายใจ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และมีลักษณะการเปรียบเทียบพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเปรยถึงการที่คนเราไม่พึ่งพาตนเอง ชอบพึ่งพาผู้อื่นในเรื่องที่ตนเองควรจะทำได้เอง เหมือนกับการที่มนุษย์ทุกคนมีจมูกเป็นของตัวเองสำหรับหายใจ แต่กลับไปใช้จมูกของคนอื่นซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และไม่สมควรอย่างยิ่ง สะท้อนการพึ่งพาผู้อื่นมากเกินไปจนขาดความเป็นตัวของตัวเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เอาจมูกผู้อื่นมาหายใจ" ในประโยค
- แม่ขี้เกียจเขาหวังพึ่งลูกสาวให้หุงข้าวทำกับข้าวทุกวัน แทนที่จะทำเอง นี่มันเอาจมูกผู้อื่นมาหายใจชัดๆ
- อายุปูนนี้แล้วยังให้พ่อแม่ส่งเงินมาใช้ทุกเดือน ไม่ยอมทำงานหาเงินเอง เอาจมูกผู้อื่นมาหายใจแบบนี้ จะพึ่งพาตัวเองได้เมื่อไหร่
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี