คนที่ได้รับผลประโยชน์หรือผลกําไรโดยไม่ต้องลงทุนลงแรง.
ประเภทสำนวน
"เสือนอนกิน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม โดยเปรียบพฤติกรรมของเสือที่ไม่ต้องออกล่าแต่มีอาหารกินกับคนที่มีรายได้โดยไม่ต้องทำงาน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเทียบจากลักษณะของเสือที่อยู่ในฐานะผู้ล่าที่แข็งแกร่ง จนสามารถรอให้เหยื่อเข้ามาหาได้เอง โดยไม่ต้องออกไปล่าให้เหนื่อย หมายถึงคนที่มีอำนาจหรือฐานะสูง ทำให้ได้รับผลประโยชน์หรือรายได้โดยไม่ต้องลงแรงหรือทำงานหนัก เพียงแค่อาศัยตำแหน่ง อำนาจ หรือทรัพย์สินที่มีอยู่ เปรียบเหมือนเสือที่แค่นอนเฉยๆ แต่ก็มีอาหารเข้ามาให้กิน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เสือนอนกิน" ในประโยค
- นายทุนคนนั้นกลายเป็นเสือนอนกินไปแล้ว แค่ให้เงินคนอื่นลงทุนทำธุรกิจ แล้วตัวเองก็รอรับผลกำไรเข้ากระเป๋า
- คนที่มีที่ดินให้เช่าจำนวนมากก็เหมือนเสือนอนกิน ไม่ต้องทำงานหนักก็มีรายได้เข้ามาทุกเดือน
- สมัยนี้มีธุรกิจออนไลน์ที่ทำให้เจ้าของเว็บกลายเป็นเสือนอนกิน เพียงแค่สร้างระบบอัตโนมัติแล้วรอรับเงินเท่านั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี