ประเภทสำนวน
"เพชรตัดเพชร" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเทียบที่แสดงการเปรียบเปรยลักษณะการเอาชนะหรือต่อสู้กันระหว่างผู้ที่มีความสามารถหรือความแข็งแกร่งทัดเทียมกัน ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้อ้างอิงถึงคุณสมบัติของเพชร ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งที่สุดในธรรมชาติ การตัดหรือเจียระไนเพชรจำเป็นต้องใช้เพชรด้วยกันเอง เพราะวัสดุอื่นไม่แข็งพอ จึงนำมาเปรียบเปรยถึงการที่ผู้มีความสามารถ ปัญญา หรืออำนาจในระดับเดียวกันมาประชันหรือต่อสู้กัน ซึ่งจะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นและยากที่จะคาดเดาผลลัพธ์
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เพชรตัดเพชร" ในประโยค
- การเจรจาระหว่างนักธุรกิจฝีมือดีสองคนนี้เป็นเพชรตัดเพชร ทั้งคู่ต่างมีประสบการณ์และไหวพริบสูง
- การแข่งขันครั้งนี้เป็นเพชรตัดเพชร เพราะทั้งสองทีมล้วนแต่เป็นแชมป์เก่าที่มีฝีมือทัดเทียมกัน
- คดีนี้ทนายทั้งสองฝ่ายเป็นเพชรตัดเพชร ต่างฝ่ายต่างก็มีความเชี่ยวชาญและชั้นเชิงในการต่อสู้คดี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี