เอาจริงเอาจังเกินไป เช่น ทํางานเป็นบ้าเป็นหลัง
ประเภทสำนวน
"เป็นบ้าเป็นหลัง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นสำนวนที่มีลักษณะเปรียบเทียบ ซึ่งต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่การสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และเป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมหรือสถานการณ์เฉพาะแบบหนึ่ง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึง การทำอะไรอย่างเป็นสัดเป็นส่วน มีระเบียบแบบแผน มีขั้นตอนชัดเจน ไม่สับสนหรือกระจัดกระจาย เปรียบเหมือนบ้านที่มีโครงสร้างชัดเจน มีหลังคา มีฝาผนัง มีพื้นที่แบ่งเป็นส่วนต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เป็นบ้าเป็นหลัง" ในประโยค
- เมื่อเธอรับงานใหญ่ ต้องวางแผนให้เป็นบ้าเป็นหลัง ไม่เช่นนั้นจะทำไม่เสร็จตามกำหนด
- การจัดงานแต่งงานต้องทำให้เป็นบ้าเป็นหลัง เริ่มจากการเลือกสถานที่ จองวันที่ ส่งการ์ด ตามลำดับ จึงจะไม่วุ่นวาย
- พ่อแม่ควรสอนลูกให้เก็บของเล่นเป็นบ้าเป็นหลัง เพื่อฝึกระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี