ประเภทสำนวน
"เงาตามตัว" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบการกระทำกับผลที่ติดตามมา โดยเป็นข้อความเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีที่มีความหมายพิเศษเฉพาะอย่างสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มาจากการสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เงาจะติดตามตัวเสมอเมื่อมีแสง เปรียบเทียบกับการกระทำของคนที่ไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่ว ผลของการกระทำนั้นจะติดตามตัวไปเสมอไม่สามารถหลีกหนีได้ เหมือนกับเงาที่ติดตามตัวไปทุกที่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เงาตามตัว" ในประโยค
- เธอกลัวคนจะรู้ว่าโกงข้อสอบ แต่ก็หนีไม่พ้นหรอก ความผิดเป็นเงาตามตัว
- ถึงแม้จะหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่คดีฉ้อโกงที่เขาก่อไว้ก็ยังเป็นเงาตามตัว จนกระทั่งถูกส่งตัวกลับมารับโทษในที่สุด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี