เคยทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน จึงทำให้ได้มาเกื้อกูลอยู่ร่วมกันอีกในปัจจุบัน
เคยทำบุญกุศลร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน จึงมาอยู่ร่วมกันในชาตินี้
ประเภทสำนวน
"เก็บดอกไม้ร่วมต้น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ได้มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และต้องอาศัยการตีความจากการเปรียบเทียบพฤติกรรมเก็บดอกไม้กับการสอดแทรกผลประโยชน์ส่วนตัว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มีที่มาจากการเปรียบเทียบกับคนที่ทำงานหรือช่วยเหลือผู้อื่น แต่แอบแฝงความต้องการหาผลประโยชน์ให้ตนเองไปด้วย เหมือนกับคนที่ได้รับมอบหมายให้ไปเก็บดอกไม้ แล้วถือโอกาสเก็บดอกไม้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวไปด้วย หรือทำงานที่ได้รับมอบหมายพร้อมกับทำธุระส่วนตัวไปด้วย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เก็บดอกไม้ร่วมต้น" ในประโยค
- นายกเทศมนตรีคนนี้ชอบเก็บดอกไม้ร่วมต้น ออกตรวจงานทีไรมักจะแวะไปพบลูกค้าธุรกิจส่วนตัวด้วยทุกครั้ง
- พ่อบอกว่าถ้าฉันจะไปซื้อของที่ตลาด อย่าเก็บดอกไม้ร่วมต้นไปช็อปปิ้งสินค้าอื่นเพลินจนซื้อของที่สั่งไม่ครบ
- หัวหน้าฝ่ายถูกตำหนิเพราะชอบเก็บดอกไม้ร่วมต้น ส่งลูกน้องไปติดต่องานนอกบริษัทแล้วฝากซื้อของส่วนตัวมาด้วย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"เก็บดอกไม้ร่วมต้น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต แต่เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมหรือการกระทำบางอย่าง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการเปรียบเทียบกับการเก็บดอกไม้แต่ไม่ได้ทำลายหรือตัดทั้งต้น เพื่อให้ต้นไม้ยังคงอยู่และสามารถออกดอกได้อีกในอนาคต เป็นการเปรียบเปรยถึงการรู้จักพอประมาณ ไม่โลภมากเกินไป หรือการเอาประโยชน์จากสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างรู้คุณค่า ไม่ทำลายจนหมดสิ้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เก็บดอกไม้ร่วมต้น" ในประโยค
- บริษัทนี้มีนโยบายเก็บดอกไม้ร่วมต้น ไม่ได้เอากำไรมากมาย แต่รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว
- ชาวประมงในชุมชนนี้ยึดหลักเก็บดอกไม้ร่วมต้น จับปลาเท่าที่พอกิน ไม่ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ เพื่อให้มีปลาเหลือไว้จับในอนาคต
- การทำธุรกิจแบบเก็บดอกไม้ร่วมต้น อาจไม่รวยเร็ว แต่มั่นคงและยั่งยืนกว่า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี