ไม่เอางานเอาการ ไม่เอาเรื่องเอาราว
ประเภทสำนวน
"เกเรเกตุง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำพังเพยเพราะเป็นข้อความเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่ชอบกวนหรือก่อกวนผู้อื่น โดยไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรง (จึงไม่ใช่สุภาษิต) และไม่ใช่เพียงคำหรือวลีที่มีความหมายเฉพาะ (จึงไม่ใช่สำนวนไทย) แต่เป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมที่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
เกเรเกตุง มาจากพฤติกรรมของการชอบแกล้งหรือก่อกวนผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผลหรือจำเป็น คำว่า 'เกเร' หมายถึงพฤติกรรมซุกซน ดื้อรั้น ไม่อยู่ในระเบียบ ส่วน 'เกตุง' นั้นเป็นคำเลียนเสียงที่ใช้คู่กับเกเร เพื่อเน้นย้ำลักษณะของการกระทำที่ไม่เหมาะสม สื่อถึงพฤติกรรมชอบก่อกวน หาเรื่อง หรือสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เกเรเกตุง" ในประโยค
- เด็กคนนั้นเกเรเกตุงไม่ยอมเชื่อฟังครู คอยแกล้งเพื่อนอยู่ตลอดเวลา
- อย่ามาเกเรเกตุงหาเรื่องชวนทะเลาะแบบนี้ เราอยู่กันอย่างสงบได้ไหม
- เขาเป็นคนชอบเกเรเกตุง ไปที่ไหนก็มักจะมีเรื่องวุ่นวายตามมาเสมอ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี