ไม่ยอมเสียเปรียบกัน แก้เผ็ดให้สาสมกัน
ประเภทสำนวน
"เกลือจิ้มเกลือ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้แบบสำนวนไทยทั่วไป แต่เป็นข้อความเปรียบเทียบที่ต้องตีความความหมายแฝง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเทียบว่าเกลือซึ่งเป็นเครื่องปรุงรสเค็ม ถ้านำมาจิ้มกับเกลือด้วยกันเอง ก็จะได้รสชาติที่เค็มเกินไปจนไม่อาจรับประทานได้ เปรียบเหมือนคนที่มีลักษณะนิสัยหรือความคิดคล้ายกันมากเกินไปจนอาจทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ลงรอยกัน โดยเฉพาะเมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีลักษณะที่ไม่ดีเหมือนกัน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เกลือจิ้มเกลือ" ในประโยค
- ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาทะเลาะกัน ทั้งคู่เป็นคนเกลือจิ้มเกลือ ต่างก็หัวแข็งไม่ยอมลงให้กัน
- การให้พี่น้องที่นิสัยดื้อรั้นไปทำงานด้วยกันก็เหมือนเกลือจิ้มเกลือ ที่สุดแล้วก็มีแต่ปัญหา
- ผู้จัดการสองคนนี้เป็นเกลือจิ้มเกลือ ทั้งคู่ต่างชอบใช้อำนาจและไม่รับฟังความคิดเห็นใคร
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี