ความรับผิดชอบที่ผูกพันอยู่, ภาระที่ผูกพันอยู่
ประเภทสำนวน
"ห่วงคล้องคอ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า มีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงหรือสำนวนที่มีความหมายเฉพาะแบบแปลตรงตัวไม่ได้
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบภาระหน้าที่หรือความรับผิดชอบที่หนักหน่วงว่าเหมือนกับการมีห่วงหรือเครื่องพันธนาการคล้องคออยู่ ทำให้รู้สึกถูกผูกมัด ไม่เป็นอิสระ หรือมีความลำบากในการดำเนินชีวิต ซึ่งหากต้องแบกรับไว้เป็นเวลานานก็จะยิ่งรู้สึกหนักและเหนื่อยล้า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ห่วงคล้องคอ" ในประโยค
- เขาอยากไปเที่ยวต่างประเทศมานาน แต่ก็มีห่วงคล้องคอคือลูกเล็กๆ สามคนที่ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
- ที่จริงฉันอยากลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัวนานแล้ว แต่ยังมีห่วงคล้องคอเรื่องหนี้สินที่ต้องผ่อนบ้านอีกหลายปี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี