ประเภทสำนวน
"หัวชนกำแพง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบการกระทำของคนที่พยายามทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้กับการเอาหัวไปชนกำแพง จึงจัดเป็นคำพังเพยเพราะมีลักษณะการเปรียบเปรย ไม่ได้ให้คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบถึงการที่คนเรายืนกรานทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือฝืนความเป็นจริงที่ชัดเจน เหมือนการเอาหัวไปชนกำแพง ซึ่งไม่มีทางทลายกำแพงได้ มีแต่จะทำให้ตัวเองเจ็บปวด เปรียบเสมือนการดื้อดึงทำสิ่งที่เกินความสามารถหรือไม่มีทางสำเร็จ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หัวชนกำแพง" ในประโยค
- เขาอยากเรียนต่อแพทย์ทั้งที่เกรดไม่ถึงเกณฑ์เลย ครูที่ปรึกษาเตือนแล้วว่าอย่าหัวชนกำแพง
- การที่จะไปทำให้คนที่เกลียดเรามารัก มันเหมือนกับการหัวชนกำแพง เสียเวลาเปล่า
- ไม่ต้องหัวชนกำแพงหรอก ทางนั้นปิดตายแล้ว ลองมองหาโอกาสใหม่ดีกว่า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี