ประเภทสำนวน
"หวานคอแร้ง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความที่เปรียบเปรยสถานการณ์หรือพฤติกรรม โดยมีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำหรือวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบความหวานของอาหารหรือผลไม้ที่หวานมากถึงขนาดที่แม้แต่แร้ง ซึ่งเป็นสัตว์ที่กินซากสัตว์เป็นอาหารและไม่ได้ชอบของหวาน ยังรู้สึกว่าหวาน ใช้อธิบายถึงสิ่งที่มีรสหวานจัดจนเลี่ยนหรือหวานเกินไปจนไม่น่ารับประทาน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หวานคอแร้ง" ในประโยค
- มะม่วงลูกนี้หวานคอแร้งเลย กินแล้วเลี่ยน
- น้ำตาลที่ใส่ในชาไปตั้งสองช้อน ทำให้มันหวานคอแร้งจนดื่มไม่ลง
- ขนมหวานร้านนี้ทำหวานคอแร้ง ใครชอบของหวานจัดเท่านั้นถึงจะกินได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี