เข้าไปขัดขวางผลประโยชน์ กิจกรรม หรือการกระทําของผู้อืน ซึ่งเขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว
ประเภทสำนวน
"หมูเขาจะหามเอาคานเข้าไปสอด" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรง แต่เป็นการเปรียบเปรยถึงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่คนอื่นจัดการกันเรียบร้อยแล้ว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการนำหมูไปเผา เมื่อหมูตายแล้ว คนจะเอาไม้มาร้อยหรือสอดผ่านตัวหมู เพื่อหามไปเผาขน เป็นขั้นตอนที่จำเป็นต้องทำตามลำดับ หากมีคนพยายามเข้ามาช่วยหรือแทรกแซงตอนที่การจัดการกับหมูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการกระทำที่ไม่เกิดประโยชน์ หรืออาจทำให้งานที่เสร็จแล้วเกิดปัญหา
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมูเขาจะหามเอาคานเข้าไปสอด" ในประโยค
- พอที่ประชุมตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เธอเพิ่งจะมาออกความเห็น นี่เรียกว่าหมูเขาจะหามเอาคานเข้าไปสอด
- ทุกอย่างจัดการเสร็จแล้ว คุณเพิ่งมาเสนอความคิดเห็น มันก็เหมือนหมูเขาจะหามเอาคานเข้าไปสอด ไม่ทันการณ์แล้ว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี