คนที่หวงแหนสิ่งที่ตนเองกินหรือใช้ไม่ได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นกินหรือใช้
หมาหวงราง ก็ว่า
ประเภทสำนวน
"หมาในรางหญ้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมมนุษย์กับพฤติกรรมของสัตว์ในลักษณะเชิงเปรียบเปรย มีความหมายแฝงที่ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของสุนัขที่แม้ตัวเองไม่กินหญ้า แต่ก็นอนขวางรางหญ้าไว้ ทำให้วัวควายที่กินหญ้าเป็นอาหารไม่สามารถเข้าไปกินได้ สะท้อนถึงพฤติกรรมของคนที่ตนเองไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้น แต่ก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ใช้หรือได้รับประโยชน์เช่นกัน เป็นการเปรียบถึงความเห็นแก่ตัวและความริษยา
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมาในรางหญ้า" ในประโยค
- พี่คนโตได้รับมรดกเป็นที่ดินแต่ไม่ยอมให้น้องๆ ปลูกผักหรือทำอะไรเลย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ใช้ เหมือนหมาในรางหญ้าเลย
- บริษัทนั้นซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วไม่ผลิต แถมยังไม่ให้บริษัทอื่นซื้อต่อ เป็นหมาในรางหญ้าแท้ๆ ทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี