ไม่รู้คุณของแผ่นดินที่อาศัย, ทรยศต่อบ้านเมืองของตน, เสนียดสังคม
ประเภทสำนวน
"หนักแผ่นดิน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยถึงคนที่ประพฤติไม่ดี เป็นภาระของแผ่นดิน มีความหมายที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิตและไม่ใช่วลีที่มีความหมายเฉพาะอย่างสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มีที่มาจากแนวคิดโบราณที่เปรียบแผ่นดินเป็นเสมือนมารดาที่รองรับชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน คนใดที่เป็นคนไม่ดี เป็นโจรผู้ร้าย หรือทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นและสังคม จึงถือว่าเป็น 'ภาระ' หรือ 'น้ำหนัก' ที่แผ่นดินต้องแบกรับไว้ เปรียบเสมือนสร้างภาระให้กับแม่ของตนเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หนักแผ่นดิน" ในประโยค
- พวกนักโทษคดีอุกฉกรรจ์พวกนี้เป็นพวกหนักแผ่นดิน ไม่รู้ว่าสร้างความเดือดร้อนให้สังคมไปมากแค่ไหน
- คนที่ทำผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติด ถือว่าเป็นคนหนักแผ่นดิน ไม่มีประโยชน์ต่อบ้านเมืองเลย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี