แนะนำ หรือสั่งสอนคนปัญญาทึบ มักไม่มีประโยชน์ เสียเวลาเปล่า
ประเภทสำนวน
"สีซอให้ควายฟัง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม และมีโครงสร้างการเปรียบเทียบพฤติกรรม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากการเปรียบเทียบกับการที่คนเล่นดนตรีหรือสีซอให้ควายฟัง ซึ่งควายเป็นสัตว์ที่ไม่มีความซาบซึ้งหรือเข้าใจความไพเราะของดนตรี ทำนองเสียงซอจึงไม่มีความหมายอะไรกับควาย เปรียบเหมือนการพูดหรืออธิบายสิ่งที่ละเอียดอ่อนหรือซับซ้อนให้คนที่ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจในเรื่องนั้นฟัง ซึ่งเป็นการเสียเวลาเปล่า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สีซอให้ควายฟัง" ในประโยค
- คุณจะไปอธิบายทฤษฎีควอนตัมให้คนที่ไม่เคยเรียนฟิสิกส์มาก่อนฟัง ก็เหมือนสีซอให้ควายฟังเท่านั้นเอง
- การพยายามชี้แจงเหตุผลกับคนที่ไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนอื่น ก็เท่ากับสีซอให้ควายฟัง ไม่มีประโยชน์อะไร
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี