บ้า ๆ บอ ๆ สติไม่สมบูรณ์, มีจิตใจใกล้ไปทางบ้า ๆ บอ ๆ
มักใช้แบบ ไม่เต็มบาท
ประเภทสำนวน
"สองสลึงเฟื้อง" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนหรือข้อคิดโดยตรงเกี่ยวกับการใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่า มีความชัดเจนในตัวเอง ให้แนวคิดเชิงคำสอนที่ตรงไปตรงมา
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากระบบเงินตราโบราณของไทย โดย 'เฟื้อง' มีค่าเท่ากับ 1/8 บาท ส่วน 'สลึง' มีค่าเท่ากับ 1/4 บาท ฉะนั้น 'สองสลึงเฟื้อง' จึงมีค่าเท่ากับครึ่งบาทและอีกหนึ่งเฟื้อง หรือ 5/8 บาท หมายถึงการใช้จ่ายเงินตามฐานะหรือตามความจำเป็น ไม่ใช้จ่ายเกินตัว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สองสลึงเฟื้อง" ในประโยค
- พ่อแม่สอนให้ใช้ชีวิตแบบสองสลึงเฟื้อง จึงไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงินเลย
- ข้าราชการควรดำเนินชีวิตแบบสองสลึงเฟื้อง จึงจะอยู่ได้โดยไม่ต้องทุจริต
- ถึงเงินเดือนไม่มาก แต่หากใช้ชีวิตแบบสองสลึงเฟื้อง ก็สามารถมีเงินเก็บได้ทุกเดือน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี