เกิดเรื่องเสียหายขึ้นแล้วจึงคิดหาหนทางป้องกันเหมือนมีสมบัติไม่เก็บรักษาให้ดีพอสมบัติหายไปแล้วจึงหาทางสร้างที่เก็บสมบัติ
ประเภทสำนวน
"วัวหายล้อมคอก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอนโดยตรง แต่เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่มักแก้ไขปัญหาหลังจากเกิดความเสียหายแล้ว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มีที่มาจากพฤติกรรมของชาวบ้านที่เลี้ยงวัว เมื่อวัวหลุดออกจากคอกหรือถูกขโมยไปแล้ว จึงค่อยรีบซ่อมหรือสร้างคอกให้แข็งแรง ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ เพราะความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว สะท้อนธรรมชาติของมนุษย์ที่มักไม่ระมัดระวังป้องกันปัญหาล่วงหน้า แต่จะตื่นตัวและรีบแก้ไขเมื่อประสบกับความเสียหายแล้ว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "วัวหายล้อมคอก" ในประโยค
- หลังจากถูกโจรงัดแงะบ้านไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้เขาเพิ่งมาติดกล้องวงจรปิดและระบบสัญญาณกันขโมย นี่เรียกว่าวัวหายล้อมคอกชัดๆ
- รัฐบาลเพิ่งจะออกนโยบายป้องกันน้ำท่วมหลังจากที่น้ำได้ท่วมเมืองหลวงไปแล้ว กรณีนี้ก็คือวัวหายล้อมคอกนั่นเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี