ประเภทสำนวน
"ยุแยงตะแคงรั่ว" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และมีโครงสร้างเป็นการเปรียบเทียบ มีความหมายเชิงเปรียบเปรยถึงพฤติกรรมการยุยงให้เกิดความแตกแยก
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเทียบจากการกระทำที่ว่า เมื่อมีรอยรั่วหรือรอยแตกเล็กๆ เกิดขึ้น แล้วมีคนมาแหย่หรือแยงให้รอยรั่วนั้นขยายใหญ่ขึ้น ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง เปรียบเหมือนคนที่ชอบยุยงส่งเสริมให้คนทะเลาะกัน หรือทำให้ปัญหาเล็กๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ยุแยงตะแคงรั่ว" ในประโยค
- พวกเธออย่ายุแยงตะแคงรั่วให้พี่น้องคู่นั้นทะเลาะกันมากไปกว่านี้เลย
- เรื่องเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ กำลังจะคลี่คลาย แต่ก็มีคนมายุแยงตะแคงรั่ว ทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม
- ในที่ทำงาน มักมีคนที่ชอบยุแยงตะแคงรั่ว คอยนำเรื่องของคนนี้ไปบอกคนนั้น ทำให้เพื่อนร่วมงานเกิดความขัดแย้งกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี