ยกย่องตัวเองและข่มผู้อื่น,พูดทับถมผู้อื่นแสดงให้เห็นว่าตัวเหนือกว่า
พูดทับถมผู้อื่นแสดงให้เห็นว่าตัวเหนือกว่า
ประเภทสำนวน
"ยกตนข่มท่าน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝงเกี่ยวกับลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของคน ไม่ใช่คำสอนโดยตรง และต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้หมายถึงการยกย่องตนเองให้สูงส่งหรือดีกว่า ในขณะที่กดผู้อื่นให้ต่ำต้อยหรือด้อยกว่า เป็นการแสดงออกถึงความหยิ่งผยอง ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน และไม่ให้เกียรติผู้อื่น พฤติกรรมเช่นนี้มักไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมไทยซึ่งให้ความสำคัญกับความอ่อนน้อมถ่อมตน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ยกตนข่มท่าน" ในประโยค
- เขาชอบยกตนข่มท่านในที่ประชุม พูดแต่ความสำเร็จของตัวเองและมักวิจารณ์ผลงานของคนอื่นว่าด้อยกว่า
- การยกตนข่มท่านเป็นนิสัยที่ไม่ควรมี เพราะจะทำให้ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย
- หัวหน้าคนใหม่ชอบยกตนข่มท่าน ทำให้บรรยากาศในการทำงานเสียไปหมด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ยกตนข่มท่าน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรย พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในสังคม เป็นการกล่าวหรือแสดงออกให้เห็นว่าตนเองดีกว่าหรือเก่งกว่าผู้อื่น โดยมีความหมายแฝงในเชิงเตือนสติ ไม่ใช่เป็นคําสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายพิเศษที่ต้องตีความเหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้หมายถึงการที่คนเรายกย่องตนเองว่าดีหรือเก่งกว่าคนอื่น ในขณะเดียวกันก็พยายามลดค่าหรือทำให้ผู้อื่นดูด้อยค่าลง เป็นลักษณะนิสัยที่ไม่พึงประสงค์ในสังคมไทยที่ให้ความสำคัญกับความถ่อมตน การยกตนข่มท่านแสดงถึงการขาดความเคารพและไม่ให้เกียรติผู้อื่น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ยกตนข่มท่าน" ในประโยค
- เธอเป็นคนชอบยกตนข่มท่าน พูดคุยกับใครก็มักจะอวดว่าตัวเองเก่งกว่า ทำให้เพื่อนๆ ไม่ค่อยอยากคบด้วย
- การประชุมครั้งที่แล้ว คุณสมศักดิ์ยกตนข่มท่านจนไม่มีใครอยากแสดงความคิดเห็นอีกเลย เพราะเขาจะพูดจาเหมือนตัวเองรู้ดีที่สุดเสมอ
- คุณครูสอนนักเรียนเสมอว่าอย่ายกตนข่มท่าน เพราะจะทำให้ไม่มีใครอยากร่วมงานหรือเป็นเพื่อนด้วย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี