กิริยากระโดกกระเดก ไม่เรียบร้อย
กริยาท่าทางผลุบผลับกระโดกกระเดกลุกลนมักใช้ว่าผู้หญิงที่ไม่เรียบร้อยจะลุกจะนั่งจะเดินเตะนั่นโดนนี่กระทบโน่นไปรอบข้าง
ประเภทสำนวน
"ม้าดีดกระโหลก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่เทียบกับลักษณะของม้า ต้องตีความเพิ่มเติมและไม่มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเปรยถึงคนที่ไม่ยอมอยู่ในระเบียบวินัย ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน ชอบทำตามความพอใจของตนเอง ไม่ยอมอยู่ในกรอบ เหมือนม้าที่ดีดกระโหลก (ซึ่งหมายถึงม้าที่ส่ายหัวและดีดตัวไม่ยอมให้ใครขี่หรือควบคุม)
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ม้าดีดกระโหลก" ในประโยค
- เด็กคนนี้เป็นม้าดีดกระโหลก สอนอย่างไรก็ไม่ฟัง ทำตามใจตัวเองตลอด
- ลูกชายคุณสมชายเป็นม้าดีดกระโหลก ไม่เคยอยู่ในโอวาทของพ่อแม่เลย
- ทีมงานคนนี้เป็นม้าดีดกระโหลก ใครเป็นหัวหน้าก็ไม่เคยเชื่อฟัง ทำอะไรตามอำเภอใจ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ม้าดีดกระโหลก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบคนที่เกิดมีสถานะดีแล้วยิ่งทะนงตัวเป็นธรรมชาติของม้า เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเปรียบเปรย ไม่ใช่คำสอนโดยตรง และต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากลักษณะของม้าที่มีนิสัยชอบดีดกระโหลก (สะบัดหัว) และชูคอสูงเมื่อมันรู้สึกภาคภูมิใจหรือทะนงตัว เปรียบเทียบกับคนที่เมื่อได้ดีมีฐานะสูงขึ้นแล้วเกิดความเย่อหยิ่ง ทะนงตัว ไม่เห็นหัวคนอื่น โดยเฉพาะคนที่เคยรู้จักหรือเคยมีฐานะด้อยกว่าตน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ม้าดีดกระโหลก" ในประโยค
- เขาเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการแผนก ก็เริ่มม้าดีดกระโหลกไม่ค่อยทักทายเพื่อนร่วมงานเก่าๆ เลย
- อย่าเป็นคนม้าดีดกระโหลกนะลูก ถึงเราจะร่ำรวยขึ้นมาก็อย่าลืมญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่เคยช่วยเหลือกันมา
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี