ชายที่ปล่อยชีวิตตามสบาย ไม่ยอมตั้งตัวหรือทําการงานเป็นหลักฐาน
ประเภทสำนวน
"พ่อพวงมาลัย" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยถึงคนที่เป็นนายหน้าหรือพ่อสื่อแม่สื่อให้คู่รัก มีลักษณะการเปรียบเทียบและต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่สำนวนที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้เลย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากประเพณีไทยที่ใช้พวงมาลัยเป็นสื่อแทนความรัก ในสมัยก่อน หนุ่มสาวที่ชอบพอกันมักใช้พวงมาลัยเป็นสื่อแทนใจ โดยมีผู้ที่ทำหน้าที่นำพวงมาลัยไปมอบให้อีกฝ่าย คนที่ทำหน้าที่นี้จึงถูกเรียกว่า 'พ่อพวงมาลัย' ซึ่งก็คือพ่อสื่อหรือนายหน้าในความรัก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "พ่อพวงมาลัย" ในประโยค
- คุณสมหมายชอบเป็นพ่อพวงมาลัยให้คู่รักหลายคู่ในบริษัท จนเพื่อนๆ ล้อว่าน่าจะเปิดบริษัทจัดหาคู่ดีกว่า
- ทั้งที่ตัวเองยังโสดแท้ แต่กลับชอบทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยให้เพื่อนๆ จนมีคนบอกว่าเธอชอบสร้างความสุขให้คนอื่นมากกว่าตัวเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี