ประเภทสำนวน
"พูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเปรียบเทียบพฤติกรรมมนุษย์โดยไม่ได้สอนโดยตรง แต่ต้องตีความจากการเปรียบเปรย ระหว่างการพูดของคนกับลักษณะของมะนาวที่ไม่มีน้ำ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบคนที่พูดด้วยน้ำเสียงแห้ง ๆ ไม่มีความรู้สึก ไม่มีอารมณ์ ขาดชีวิตชีวา หรือขาดความกระตือรือร้น เหมือนกับมะนาวที่แห้ง ไม่มีน้ำเหลืออยู่ เวลาบีบก็ไม่มีน้ำให้ใช้ปรุงรส สะท้อนถึงการสื่อสารที่ไร้ชีวิตชีวาและไม่น่าสนใจ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "พูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำ" ในประโยค
- การนำเสนองานวันนี้ เขาพูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำ ทำให้เนื้อหาที่น่าสนใจกลายเป็นน่าเบื่อไปเลย
- ถึงแม้จะได้รับรางวัลใหญ่ แต่เธอก็ยังพูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำ ไม่มีทีท่าตื่นเต้นหรือดีใจเลยสักนิด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี