รวมอยู่เป็นจํานวนมากอย่างพร้อมเพรียงกัน (ใช้แก่คนที่มีความเกี่ยวข้องกัน) เช่น มากันพร้อมหน้า มากันพร้อมหน้าพร้อมตา
ประเภทสำนวน
"พร้อมหน้าพร้อมตา" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะในภาษาไทย ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (จึงไม่ใช่สุภาษิต) และไม่ได้เปรียบเปรยหรือเปรียบเทียบสิ่งใด (จึงไม่ใช่คำพังเพย) แต่เป็นวลีที่ใช้บรรยายสถานการณ์ที่มีความหมายเฉพาะในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่มีผู้คนมารวมตัวกันอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะในงานสำคัญหรือพิธีการต่างๆ โดยมีผู้เกี่ยวข้องหรือคนสำคัญมาร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง แสดงถึงความสมบูรณ์และเอกภาพของงานหรือกิจกรรมนั้นๆ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "พร้อมหน้าพร้อมตา" ในประโยค
- งานแต่งงานเมื่อวานนี้คึกคักมาก ญาติทั้งสองฝ่ายมากันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา
- การประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้ กรรมการบริหารมาพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่มีใครขาดแม้แต่คนเดียว
- ปีใหม่นี้ครอบครัวเรานัดรวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตา แม้แต่น้องสาวที่ไปเรียนต่างประเทศก็กลับมาร่วม
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี