ประเภทสำนวน
"พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเปรียบเทียบ มีความหมายเชิงเปรียบเปรย ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และมีโครงสร้างที่เปรียบเทียบสถานการณ์หรือโอกาสที่มาไม่ถูกจังหวะ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบถึงการได้พบสิ่งดีๆ หรือโอกาสดีๆ แต่มาในเวลาที่เราไม่พร้อมหรือไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้แล้ว เหมือนการพบไม้ท่อนสวยที่เหมาะสำหรับงานช่างไม้ แต่น่าเสียดายที่ขวานที่จะใช้ตัดหรือแกะสลักกลับบิ่นเสียแล้ว จึงไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น" ในประโยค
- แม้ว่าตอนนี้จะมีทุนการศึกษาดีๆ เสนอเข้ามา แต่สำหรับเขาก็เหมือนพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น เพราะอายุล่วงเลยไปมากแล้ว
- หลังจากที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับสามีคนปัจจุบันไปแล้ว แฟนเก่าที่เคยทิ้งเธอไปก็กลับมาขอคืนดี นี่คงเป็นกรณีพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่นชัดๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี