ทำจิตให้ให้เข็มแข็งหนักแน่น ดีกว่าหูเบาเชื่อคำคนอื่นโดยไม่ตรึกตรองก่อน
ประเภทสำนวน
"พกหินดีกว่าพกนุ่น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝงให้ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนที่ชัดเจนโดยตรงเหมือนสุภาษิต แต่เป็นการเปรียบเปรยให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างของสองสิ่ง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบระหว่าง 'หิน' ซึ่งเป็นของหนัก แข็ง ทนทาน กับ 'นุ่น' ซึ่งเบา อ่อนนุ่ม และปลิวไปตามลม หมายถึงการที่คนเราควรเลือกรับสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นแก่นสาร แม้จะหนัก ยาก หรือลำบาก ดีกว่าเลือกสิ่งที่ง่าย สบาย แต่ไร้ค่าหรือไม่ยั่งยืน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "พกหินดีกว่าพกนุ่น" ในประโยค
- ฉันเลือกเรียนวิชาคณิตศาสตร์ขั้นสูงแม้จะยาก แต่พกหินดีกว่าพกนุ่น เพราะความรู้จะติดตัวไปตลอดชีวิต
- แม้การฝึกวินัยทางการเงินจะยาก แต่พกหินดีกว่าพกนุ่น ดีกว่าใช้เงินสบายในวันนี้แล้วลำบากในวันหน้า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี