เสี่ยงภัยในสงคราม, เสี่ยงอันตรายจากอาวุธนานาชนิด
ประเภทสำนวน
"ฝ่าคมหอกคมดาบ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นสำนวนเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะจนแปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย แต่เป็นการเปรียบเปรยถึงการต้องเผชิญกับความยากลำบากและอันตราย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากภาพของการต่อสู้ในสงคราม โดยหอกและดาบเป็นอาวุธที่มีคมแหลมคมและอันตราย การที่ต้องฝ่าผ่านคมหอกคมดาบไปให้ได้จึงหมายถึงการต้องเสี่ยงอันตรายอย่างมาก ต้องอาศัยความกล้าหาญและความมุ่งมั่นอย่างสูง เพื่อบรรลุเป้าหมายหรือผ่านพ้นอุปสรรคที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ฝ่าคมหอกคมดาบ" ในประโยค
- ทหารกล้าต้องฝ่าคมหอกคมดาบเข้าไปช่วยประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่อันตรายระหว่างการปะทะ
- การเข้าไปเจรจาสันติภาพในพื้นที่สงคราม เหมือนกับการฝ่าคมหอกคมดาบ แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อยุติความขัดแย้ง
- นักปกป้องสิทธิมนุษยชนต้องฝ่าคมหอกคมดาบเพื่อต่อสู้กับการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากผู้มีอำนาจ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี