นึกฝันถึงสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงได้
ประเภทสำนวน
"ฝันกลางวัน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยแฝงความหมายเชิงวิจารณ์พฤติกรรมคนที่คิดเพ้อเจ้อ ไม่เป็นความจริง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบกับการฝันที่เกิดขึ้นขณะตื่น ซึ่งปกติคนเราจะฝันตอนหลับ การฝันกลางวันหมายถึงการคิดเพ้อเจ้อ จินตนาการถึงสิ่งที่เป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยในโลกแห่งความเป็นจริง เป็นการคิดวาดภาพความสำเร็จหรือสิ่งที่ต้องการโดยไม่ลงมือทำหรือขาดการวางแผนที่เป็นรูปธรรม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ฝันกลางวัน" ในประโยค
- น้องคนนี้คิดจะเป็นเศรษฐีภายในปีเดียวโดยไม่มีเงินทุนและไม่มีแผนที่ชัดเจน แค่นั่งฝันกลางวันไปวันๆ
- เธอคิดว่าดาราคนดังจะมาตกหลุมรักเธอทั้งที่ไม่เคยเจอกัน นี่มันแค่ฝันกลางวันเท่านั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี