สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย, ทําการอันใดที่เป็นสิ่งสําคัญเพื่อไว้อาลัยก่อนจากไป
นํ้าสั่งฟ้าปลาสั่งฝน ก็ว่า
ประเภทสำนวน
"ฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนอง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม มีการเปรียบเปรยพฤติกรรมคนที่มีอำนาจน้อยแต่ทำตัวเหมือนมีอำนาจเหนือกว่าผู้ที่มีอำนาจมากกว่า ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่สำนวนที่มีความหมายเฉพาะเจาะจงที่ต้องจดจำแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ตามธรรมชาติ ระหว่างฝนกับฟ้า และปลากับหนอง โดยปกติฟ้าเป็นผู้ส่งฝนลงมา ไม่ใช่ฝนสั่งให้ฟ้าทำอะไร และหนอง (แหล่งน้ำ) เป็นที่อยู่อาศัยของปลา ไม่ใช่ปลาเป็นเจ้าของหนอง จึงใช้เปรียบถึงคนที่มีฐานะต่ำต้อยแต่กลับแสดงอำนาจเหนือผู้ที่มีอำนาจหรือสถานะสูงกว่า หรือลูกน้องที่ทำตัวเหมือนเป็นนาย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนอง" ในประโยค
- พนักงานใหม่คนนั้นกล้ามากนะ เพิ่งเข้ามาทำงานได้แค่เดือนเดียวก็มาสั่งหัวหน้าแผนก นี่มันฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนองชัด ๆ
- เด็กบรรจุใหม่คนนั้นทำตัวเป็นฝนสั่งฟ้า ปลาสั่งหนอง กล้าเถียงอาจารย์อาวุโสต่อหน้าที่ประชุม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่มีประสบการณ์อะไรเลย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี