ให้หรือแจกจ่ายอะไรไม่ทั่วถึงกัน
ประเภทสำนวน
"ฝนตกไม่ทั่วฟ้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่ใช้ปรากฏการณ์ธรรมชาติ (ฝนตกไม่ทั่วฟ้า) เพื่อสื่อความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่สำนวนเพราะสามารถเข้าใจได้ตามความหมายของคำที่ประกอบกัน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ฝนไม่ได้ตกลงมาพร้อมกันทุกพื้นที่ บางแห่งมีฝนตก บางแห่งแห้งแล้ง เพื่อเปรียบเปรยถึงความไม่เท่าเทียมกันในการได้รับโอกาส ผลประโยชน์ หรือความเจริญก้าวหน้า ซึ่งมักกระจุกตัวอยู่เฉพาะบางคนหรือบางกลุ่มเท่านั้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ฝนตกไม่ทั่วฟ้า" ในประโยค
- การพัฒนาประเทศในช่วงที่ผ่านมาเหมือนฝนตกไม่ทั่วฟ้า เมืองใหญ่เจริญก้าวหน้า แต่ชนบทห่างไกลยังล้าหลัง
- นโยบายช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้เป็นฝนตกไม่ทั่วฟ้า บางหมู่บ้านได้รับความช่วยเหลือมาก แต่อีกหลายหมู่บ้านแทบไม่ได้อะไรเลย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี