สร้างเรื่องเท็จให้เห็นเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา
ประเภทสำนวน
"ปั้นน้ำเป็นตัว" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม เปรียบเปรยพฤติกรรมการนำสิ่งที่ไม่มีตัวตนหรือหลักฐานมาทำให้ดูเป็นเรื่องจริง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับการพยายามสร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือการนำน้ำซึ่งไม่มีรูปร่างแน่นอนมาปั้นให้เป็นตัวเป็นตน ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ สื่อถึงคนที่ชอบแต่งเรื่องขึ้นมาเองทั้งที่ไม่มีมูลความจริง หรือมีหลักฐานเพียงเล็กน้อยแต่ขยายความจนเป็นเรื่องใหญ่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ปั้นน้ำเป็นตัว" ในประโยค
- เขาชอบปั้นน้ำเป็นตัว เห็นเพื่อนคุยกับรุ่นพี่นิดหน่อยก็ไปเล่าต่อว่าทั้งสองคนกำลังคบกัน
- อย่าเพิ่งปั้นน้ำเป็นตัวว่าเขาเป็นคนขโมยของ ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานอะไรชัดเจนเลย
- นักข่าวบางคนชอบปั้นน้ำเป็นตัว นำข่าวลือมาเสนอเหมือนเป็นความจริง โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี