ประเภทสำนวน
"น้ำซึมบ่อทราย" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยสถานการณ์ที่ทรัพย์สินหรือเงินทองค่อยๆ หมดไปโดยไม่รู้ตัว ต้องตีความเพิ่มเติมจากถ้อยคำที่เปรียบเทียบธรรมชาติกับพฤติกรรมมนุษย์
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มีที่มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น้ำค่อยๆ ซึมหายไปในบ่อทรายอย่างช้าๆ จนแทบไม่รู้สึกตัว แต่เมื่อสังเกตดูก็จะพบว่าระดับน้ำลดลงไปเรื่อยๆ จนหมด เปรียบเหมือนเงินทองหรือทรัพย์สินที่ค่อยๆ รั่วไหลออกไปทีละเล็กละน้อย จนกระทั่งหมดไปโดยที่เจ้าของไม่ทันสังเกตเห็น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "น้ำซึมบ่อทราย" ในประโยค
- ถ้าไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้ดี เงินเดือนของคุณก็จะเป็นน้ำซึมบ่อทรายไปเรื่อยๆ จนหมดตัวโดยไม่รู้ตัว
- ธุรกิจของเขาเหมือนน้ำซึมบ่อทราย มีรายได้เข้ามาแต่ก็มีค่าใช้จ่ายรั่วไหลออกไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือกำไร
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"น้ำซึมบ่อทราย" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบเพื่อสื่อความหมายโดยนัย ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่สำนวนเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้ แต่เป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมการสูญเสียทรัพย์ทีละน้อยจนหมดไป
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากธรรมชาติของน้ำที่ค่อยๆ ซึมหายไปในบ่อทรายทีละน้อย จนในที่สุดน้ำก็หมดไป ใช้เปรียบเทียบกับการใช้จ่ายเงินทองหรือทรัพย์สินทีละเล็กทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง จนทำให้ทรัพย์สินหมดไปโดยไม่รู้ตัว หรือไม่ทราบว่าเงินหมดไปกับอะไรบ้าง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "น้ำซึมบ่อทราย" ในประโยค
- รายได้ของเขาน้ำซึมบ่อทราย ใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน พอสิ้นเดือนก็ไม่เหลือเงินเก็บเลย
- ระวังการช้อปปิ้งออนไลน์บ่อยๆ นะ เดี๋ยวจะน้ำซึมบ่อทราย หมดเงินโดยไม่รู้ตัว
- ธุรกิจของเขากำลังประสบปัญหาน้ำซึมบ่อทราย มีรายจ่ายปลีกย่อยมากมายที่ควบคุมไม่ได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"น้ำซึมบ่อทราย" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ มีความหมายเฉพาะ ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่มีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบอย่างชัดเจนเหมือนคำพังเพย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้อุปมาจากการที่น้ำค่อยๆ ซึมหายไปในบ่อทราย อย่างช้าๆ จนแทบไม่รู้ตัว เปรียบเทียบกับทรัพย์สินหรือเงินทองที่ค่อยๆ รั่วไหลออกไปทีละเล็กละน้อย อย่างไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน จนกระทั่งหมดไปโดยไม่รู้ตัว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "น้ำซึมบ่อทราย" ในประโยค
- เขาไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่เงินในบัญชีกลับหายไปเรื่อยๆ แบบน้ำซึมบ่อทราย สงสัยจะมีรายจ่ายปลีกย่อยที่มองข้ามไป
- ธุรกิจของเธอกำลังประสบปัญหาน้ำซึมบ่อทราย รายได้ดีแต่กำไรกลับหายไปทีละน้อยโดยไม่รู้สาเหตุ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี