ประเภทสำนวน
"นุ่งลมห่มฟ้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า แม้จะเรียกทั่วไปว่าสำนวน แต่คำว่า 'นุ่งลมห่มฟ้า' เป็นการเปรียบเทียบสภาพความยากจนขัดสนอย่างแสนสาหัส ที่ต้องตีความเพิ่มเติม จึงจัดเป็นคำพังเพย ตามหลักการแบ่งประเภททางวิชาการ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเปรยถึงความยากจนอย่างที่สุด จนแทบไม่มีเสื้อผ้าจะสวมใส่ มีเพียงอากาศ (ลม) และท้องฟ้าที่ปกคลุมร่างกาย ซึ่งเป็นการใช้อุปมาเกินจริงเพื่อสื่อถึงสภาพความขัดสนยากไร้ที่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองหรือข้าวของเครื่องใช้ แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่มีจะใส่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "นุ่งลมห่มฟ้า" ในประโยค
- หลังจากถูกหลอกให้ลงทุนจนหมดตัว เขานุ่งลมห่มฟ้ากลับบ้านเกิด ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว
- ครอบครัวนั้นประสบปัญหาหนี้สินจนต้องนุ่งลมห่มฟ้า ขายทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อใช้หนี้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี