ประเภทสำนวน
"นิ่งเป็นสิงโตหิน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบอาการของคนที่นิ่งไม่พูดไม่จาเหมือนกับรูปปั้นสิงโตหิน มีลักษณะเป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมที่ต้องตีความต่อ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้อย่างสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเทียบการวางตัวของคนที่สงบนิ่ง ไม่แสดงความคิดเห็นหรืออารมณ์ใดๆ ให้ผู้อื่นรับรู้ คล้ายกับรูปปั้นสิงโตหินที่ตั้งอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหว แม้สิงโตจริงจะเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและมีพลัง แต่เมื่ออยู่ในรูปของรูปปั้นหินก็เงียบสงบไร้การเคลื่อนไหว สะท้อนถึงการที่บางครั้งการนิ่งเฉยอาจซ่อนพลังหรือความคิดบางอย่างไว้ภายใน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "นิ่งเป็นสิงโตหิน" ในประโยค
- เขาถูกถามคำถามยากๆ ในที่ประชุม แต่กลับนิ่งเป็นสิงโตหิน ไม่ตอบอะไรเลย
- เธอรู้ทั้งรู้ว่าใครเป็นคนผิด แต่กลับเลือกที่จะนิ่งเป็นสิงโตหิน ปล่อยให้คนอื่นทะเลาะกันเอง
- แม้จะถูกยั่วยุด้วยคำพูดรุนแรง เขาก็ยังคงนิ่งเป็นสิงโตหิน ไม่หวั่นไหวตามคำยุแหย่
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี